วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สไปโนซอรัส

สไปโนซอรัส (Spinosaurus)


 ชื่อทางวิทยาศาสตร์   :    Spinosaurus (สไปโนซอรัส)

 วงค์                             :    Siriporn Youngsawad 
 ยุคสมัย                  :     ตอนกลางของยุคครีเตเชียส (100-97 ล้านปี)
 ประเภท                 :     กินเนื้อ
            




       สไปโนซอรัสมีความหมายว่าสัตว์เลื้อยคลานมีแผง ถูกค้นพบครั้งแรกในทะเลทรายสะฮาร่าของอียิปต์ เมื่อปี ค.ศ. 1910 โดยนักบรรพชีวินวิทยาชาวบาวาเรีย นาม เอิร์ล สโตรเมอร์ โดยขุดค้นไปตามชายขอบด้านตะวันออกของระบบแม่น้ำโบราณซึ่งมีหินในชั้นแคมเบรียนก่อตัวเป็นพรมแดนด้านตะวันตก  สไปโนซอรัสเป็นสัตว์กินเนื้อที่เดิน 4 ขาเป็นหลัก ส่วนอาหารนั้นส่วนมากจะเป็นปลา   
     



ลักษณะทั้่วไป
      
    สไปโนซอรัสนั้นมีจุดเด่น คือกระดูกสันหลังสูงเป็นแผ่นคล้ายใบเรือ รูปวงรี มี11ชิ้น ชิ้นที่ยาวที่สุดมีความยาว 1.69 เมตร เชื่อกันว่าใช้ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย เนื่องจากถูกค้นพบฟอสซิลในอียิปต์จึงได้สันนิษฐานเช่นนั้น กะโหลกศรีษระมีจะงอยปากแคบที่เต็มไปด้วยฟันรูปกรวย มีหงอนคู่ขนาดเล็กอยู่เหนือดวงตา แขนแข็งแกร่งมี 3นิ้ว สามารถใช้เป็นอาวุธและจับเหยื่อได้ มีความสูง 3 เมตรถ้าเดิน 4 ขา ถ้ายืน 2 ขาจะสูง 3.9-4เมตร มีความยาว 15-18 เมตร โดยฟอสซิลที่สมบูรณ์ที่สุดยาวมีความยาว 15เมตร (ส่วนกะโหลก ยาว 1.75 ม.) น้ำหนัก 23ตัน อาศัยอยู่ใน ทวีปแอฟริกา มีชีวิตอยู่ในตอนกลางของยุคครีเตเชียส (100-97 ล้านปีที่แล้ว)





                                                คาร์ชาโรดอนโทซอรัส คู่แข่ง สไปโนซิรัส





     ในช่วงที่มันอาศัยอยู่ในยุคครีเตเชียสตอนกลาง มันมีคู่แข่งที่สำคัญอย่าง คาร์ชาโรดอนโทซอรัส ที่อาศัยอยู่ยุคเดียวกันที่มีความยาว 13.8 เมตรและเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก สไปโนซอรัสเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ1ในโลก , มันมีญาติอย่าง  ซูโคไมมัส บารีออนนิกซ์ หลังจากมีการค้นพบขาหลังของสไปโนซอรัสในปี 2014 ก็พบว่าขาหลังของสไปโนซอรัสนั้นสั้นมาก จนไม่มีทางที่จะยืน2ขาได้เหมือนในภาพยนตร์ จูราสสิคปาร์ค 3 ได้ และยังมีการพบว่าเท้าานั้นเป็นผังผืดเหมือนตีนเป็ด ซึ่งไม่เหมาะที่จะวิ่งไล่จับเหยือบนบกได้ ดังนั้นจึงคาดว่าน่าจะมีไว้ใช้ในการว่ายน้ำมากกว่า



กระโดงบนหลังของสไปโนซอรัส เมื่อก่อนนักวิทยาศาสตร์ได้สันนิฐานว่า น่าจะใช้ในการปรับอุณหภูมิของร่างกาย และใช้ในการทรงตัว จึงทำให้มันเป็นสัตว์ที่ตื่นตัวมาก แต่ในปี 2014 นิซาร์ ฮิบรารัม และนักวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษากระโดงอย่างละเอียดแล้วว่า กระโดงนั้นมีปริมาณเส้นเลือดน้อยมากจึงไม่สามารถใช้ในการปรับอุณหภูมิ จึงได้สันนิฐานใหม่ว่า กระโดงน่าจะใช้ในการดึงดูดเพศตรงข้ามหรือไม่ก็ใช้ในการข่มขวัญพวกเดียวกันเองหรือนักล่านักล่าที่มีขนาดเล็ก แต่ไม่ใช่กับคาร์ชาโรดอนโทซอรัสที่โตเต็มที่ และได้มีการย้ายชิ้นส่วนกระโดงที่ยาวสุดไปไว้ช่วงท้าย เพื่อเป็นประโยชน์ในการว่ายน้ำด้วย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น